การเปิดร้านอาบน้ำตัดขน ตอนที่3 การออกแบบร้าน

การออกแบบร้านอาบน้ำตัดขน

               

         ในสมัยนี้ ต่างจากสมัย 10ปีที่แล้ว มากมาย เดี๋ยวนี้ร้านตัดขน สวยๆ เพียบทั้งนั้นเลย แค่ผ่านก็อยากเข้าไปเดินดูและใช้บริการแล้ว ผมว่ามาถึงจุดนี้ ใครๆ หลายคน ก็อยากมีร้านสวย ๆ น่ารัก ไว้สักร้าน จริงม๊ะ แต่เราจะได้แบบร้านสวยๆ เราต้องเป็นคนที่ชอบตกแต่งร้านอยู่แล้ว หรือจ้าง มืออาชีพ มาทำ ได้ร้านสวย ทันใจเลย

            การจะตกแต่งร้านตัดขน เราควรต้องกำหนดจุด หรือโซนต่างๆไว้ก่อน เช่น โซนแห้ง ,โซนเปียก วันนี้เราจะมานคุยเรื่องการวางโซนกัน

โซนเปียก

โซนเปียกคือโซนสำหรับ อาบน้ำสุนัข ,เป่าแห้ง โซนนี้ควรวางไว้ จุดที่ระบายอากาศได้ดี และใกล้ท่อน้ำทิ้งใหญ่ หรือน่าจะเป็นหลังบ้าน เนื่องจาก โซนนี้ ละอองขนจะมาก และมีอากาศค่อนข้างร้อนจากไดร์เป่าขน เราควรทำโซนนี้โล่ง ไม่อบ แต่เราควรติดแอร์โซนนี้เลยดีไหม    ในโซนนี้ไม่ควรมีแอร์ เพราะเปลืองไฟ และดูแลรักษาแอร์ค่อนข้างยาก(ดูลิงค์ การเลือกแอร์)

https://perfectdogsthailand.com/%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%99-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%992/

โซนแห้ง 

ในโซนนี้ก็มี ขายสินค้าต่างๆ ,ตัดขนสุนัข ,จุดนั่งรอ ,โต๊ะเก็บเงิน,กรง   ตำแหน่งต่างๆ ผมว่าทุกๆคนมีไอเดีย แน่นอน แต่ขอกล่าว

ตำแหน่งตัดขน ควรอยู่ในห้องแอร์  เราควรวาง โต๊ะตัดขน อย่างน้อย 2 ตัว และมีไฟ นีออนขาว อยู่ด้านบน สูงขึ้นไป ประมาณ 1.5 เมตร (ข้อควรระวังเรื่องเกิดเงา ระหว่างตัดขน เราอาจต้องวางไฟ เพื่อลบเงา อันนี้ต้องลองนำสุนัขมาตั้งแล้วลองดูเองน่ะ) 

 และมีปลั๊กไฟ สูงขึ้นไปประมาณ ครึ่งเมตร  โซนนี้จะมีละอองขนค่อนข้างเยอะ (เราควรเปิดหน้ากากแอร์มาปัดทุกวัน)  และเจ้าละอองขนนี่ ขะเข้าไปเกาะของที่ขาย ทำให้ต้องเช็ดบ่อยๆ ฉนั้นควรกั้นห้องแยก จากห้องอื่นๆ  

-ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ก็ควรอยู่ด้านหน้า รวมกันได้เลย จุดลูกค้ารอสุนัข ควรมีของขาย ระหว่างรออาจทำให้ขายสินค้าได้อีก 

      

             ที่กล่าวมาทั้งหมด นั่นคือตำแหน่งการใช้งานจริงๆ บางร้านสร้างเสร็จ แล้วใช้งานไม่ได้ รื้อทุบ หากเราวางแผนดีๆ จากคนที่เคยพลาดมาก่อน ตำแหน่งวางนั้นจะไม่ต้องแก้อีก และคนออกแบบ จะตบแต่ง เพื่อให้ร้าน เราได้สวย และใช้งานได้จริงๆ 

 

วันนี้ขอจบเพียงเท่านี้ หวังว่าจะได้อ่าน ก่อนลงมือทำร้านน่ะ  หากมีคำถามสอบถาม หรือชอบใจ ติดต่อเราได้  ทาง

https://www.facebook.com/Perfectdogs

ทุกคำถามคือประสบการณ์ที่ดีของเรา

ขอขอบคุณที่เยี่ยมชมเราจ๊ะ

เปิดร้านตัดขนสุนัข ตอน2 เลือกมารู้วิธีเลือก แอร์คอนดิชั่นกัน

ครั้งนี้เสนอเรื่องแอร์ ภายในห้องตัดขน 

            เจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ใช้เงินเยอะมากๆ  ร้านผม สาขา 2  ใช้ไปเกือบ แสนบาท เป็น ค่าใช้จ่ายที่ไม่เคยคิดมาก่อน เพราะตึกของผมลึก หน้างานติดตั้งยากจึงต้องใช้แอร์ขนาดใหญ่   เข้าเรื่องดีกว่า  ภายในห้องตัดขน ที่ทุกๆ ท่านทราบกันดีว่า  หากร้อนเมื่อไหร่ จะเกิด เหงื่อกับช่าง  และคันคะเยอ ต่อมาก็หงุดหงิด สุดท้าย หมดอารมณ์ตัดพอดี

 

ส่วนประกอบใหญ่ๆของแอร์

1.คอยล์ร้อน(ตัวที่ร้อนอยู่นอกบ้าน)  

2.คอยล์เย็น (อยู่ในห้อง)  

3.ท่อน้ำยา(ท่อขนาดท่อประปาและพันไว้)

4.ท่อน้ำทิ้ง (ท่อประมาณนิ้วกลางที่นำน้ำไปทิ้ง)

การคำนวณ BTU ของห้องตัดขน

นำขนาดห้อง กว้าง * ยาว * 1000  จะได้ ขนาด BTU   เหตุผลที่ * 1000  เพราะในห้องตัดมีทั้งคน และสุนัข และอาจจะมีไดร์ร้อนอีก

ส่วนยี่ห้อ ที่ได้รับความนิยม คือ Mitsubishi slim ต่อมา Dakin  

ส่วน ชนิดของแอร์ให้เลือก ติดผนัง หรือ wall type เพราะเราจะได้ราคาถูก กว่าชนิดอื่น

ขัอจำกัด  ของคอยล์ ร้อน

ควรอยู่ในที่โล่ง ให้ลมระบายได้ดี เพราะมีผลโดยตรงต่อ อายุคอยล์  


คอยล์เย็น

พยายามอย่าให้เป่าลง ตรงโต๊ะตัดขน โดยตรง  เพราะทำให้ขนฟุ่ง ทั่วห้องตัด  ขนสุนัข สะบัด  เกิดไฟฟ้าสถิตย์ ที่ขนสุนัข 

ควรอยู่ในจุดที่ทำความสะอาด ง่ายๆ เพราะเราต้องนำมาล้างบ่อยๆ ที่ร้านผม ทำความสะอาด 3-4 วัน/ครั้ง

ท่อน้ำยาแอร์

ทำหน้าที่ส่งน้ำยาแอร์ เข้าสู่ห้อง ท่อนี้ไม่ควรเดิน คดไปมา และแอร์แต่ละ ขนาด จะบอกว่า เราควรเดินท่อน้ำยาแอร์ได้ไกลขนาดไหน ประมาณ ไม่เกิน 12 เมตร ยิ่งไกลแอร์ไม่เย็น และทานไฟเยอะ

เมื่อติดตั้งเสร็จ สังเกตุที่รอยต่อ ของท่อนี้กับคอยล์ร้อน หากรั่ว น้ำยาแอร์จะหมดไว ฉนั้นเมื่อติดตั้งเสร็จ ควรตรวจสอบจุดนี้ให้ดี

 

ท่อน้ำทิ้ง

ท่อนี้จะนำน้ำไปทิ้งนอกอาคาร บ้าน ห้องน้ำ  

ท่อนี้จะต้องเอียงลง เพื่อไม่ให้น้ำไหลย้อนกลับไป สู่แอร์  แต่จุดนำท่อน้ำ ไปทิ้งได้ยาก ก็มีเครื่องเดนน้ำทิ้งแอร์ ช่วย โดยต้องติดตั้งเพิ่มเติม (ทำหน้าที่คล้ายปั๊มน้ำ ดันน้ำไปทิ้ง)

 

จบแล้วขอให้ท่าน เลือกแอร์ ให้เหมาะสมกับ ร้านน่ะครับ

 

By อ jack