ภาษีป้าย แบบเจาะลึก

ถ้าเราค้นๆ หาความรู้ด้านภาษีป้าย จะได้ความรู้แบบคร่าวๆ แต่วันนี้ จะเอาความรู้แบบ
เจาะลึก มาเผยแพร่ และตัวอย่างเพื่อความเข้าใจ อย่างลึกซึ้ง
เพื่อประหยัด ค่าภาษี ได้หลายพันบาทต่อปี  หรืออาจจะไม่จ้างทำ แล้วต้องรื้อ ออก
     
      อย่างที่ทราบภาษีที่เกี่ยวกับธุรกิจ petshop หรือร้านอาบน้ำตัดขนสุนัข
มี 3 ตัวหลัก คือ ภาษีรายได้,ภาษีโรงเรือน,ภาษีป้าย
วันนี้ จะมาให้ความรู้เรื่องภาษีป้าย   ถ้าเราค้นทาง google จะได้ความรู้ประมาณนี้
ว่า
ภาษีป้าย มีการคำนวณ 3 อัตรา
อัตราค่าภาษีป้าย
ป้ายประเภทที่ 1 หมายถึง ป้ายที่มีอักษรไทยล้วน ให้คิดอัตรา 3 บาท ต่อ 500 ตารางเซนติเมตร

ป้ายประเภทที่ 2 หมายถึง ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับอักษรต่างประเทศ หรือปนกับภาพและเครื่องหมายอื่น ให้คิดอัตรา 20 บาท ต่อ 500 ตารางเซนติเมตร

ป้ายประเภทที่ 3 หมายถึง (ก) ป้ายที่ไม่มีอักษรไทย ไม่ว่ามีภาพหรือเครื่องหมายใด ๆ หรือไม่ หรือ (ข) ป้ายที่มีอักษรไทยบางส่วนหรือทั้งหมดอยู่ใต้หรือต่ำกว่าอักษรต่างประเทศ ให้คิดอัตรา 40 บาท ต่อ 500 ตารางเซนติเมตรเมื่อคำนวณพื้นที่ของป้ายแล้วถ้ามีอัตราต่ำกว่าป้ายละ 200 บาท ให้เสียค่าภาษีป้ายละ 200 บาท

ป้ายประเภทที่ 4 หมายถึง ป้ายที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขพื้นที่ป้าย ข้อความ ภาพ หรือเครื่องหมายบางส่วนในป้ายที่ได้เสียภาษีแล้ว อันเป็นเหตุให้ต้องเสียภาษีป้ายเพิ่มขึ้น ให้คิดอัตราตาม (1) (2) หรือ (3) แล้วแต่กรณี และให้เสียเฉพาะจำนวนเงินภาษีที่เพิ่มขึ้น

ลักษณะป้ายที่ต้องเสียภาษี ป้ายไวนิล,ป้ายล้อเลื่อน ,สติ๊กเกอร์ติดกระจก ,ธงญี่ปุ่น
ป้ายไฟ เป็นต้น

แต่วันนี้ เรามาเจาะ ลงลึกกัน ดูตามภาพตามครับ

 
-ป้าย กลมเล็ก ลอยมี 2 ด้าน ขนาด 60 ซม*60ซม =3,600 ตรซม 
แล้วหาร ด้วย 500 ได้ค่า 7.2
ถ้า มีเศษ ไม่เกิน 0.5 ปัดเศษทิ้ง แต่ถ้า 0.6 ปัดขึ้น
แต่ป้ายแบบนี้เสีย 2 ด้านน่ะ เพราะมี 2 หน้า
ลักษณะโลโก้ ขึ้นบน ตามด้วยภาษาอังกฤษ แบบนี้เข้าข่าย อัตรา 40 บาท เสีย 280 บาทต่อด้าน รวม560 บาทต่อปี

เคล็ดลับคือนำภาษาไทยไปติดเหนือ โลโก้จะ เสียอัตรา 20 บาทแทน

จะเหลือเพียง 400 บาทต่อปี

 
รูปต่อไป
 
 
-สติ๊กเกอร์ ตัวหนังสือ ติดกระจก *เสียภาษีด้วยน่ะ *   วิธีคิด เค้าจะวัด  
กว้าง*ยาว ตามภาพได้ 120 ซม*190 ซม = 22,800 
ส่วนนี้ เสียอัตรา 40 บาท เพราะไม่มีตัวภาษาไทยอยู่บน เสียค่าภาษี 1,840 บาท  

เคล็ดลับ เอาภาษาไทยทั้งหมด ไปอยู่ด้านบนแทน ค่าภาษี จะเก็บเพียง 920 บาทเอง

*** แต่ถ้าเราเอาภาษาไทย ไว้ด้านบนสุด แล้วบรรทัดตามด้วยภาษาอังกฤษ และตามด้วยภาษาไทย อีก
แบบนี้  เสียอัตรา 40 บาทน่ะ

 
 
ต่อไป
 
 
 
-สติ๊กเกอร์ ติดกระจก  ป้ายโลโก้ วงกลมดำ ขนาด 55 ซม * 55 ซม ได้พื้นที่ 3,025 แล้วหารด้วย 500 จะได้ค่า 6.05 แล้วปัดลงเหลือ 6
แบบนี้เสียอัตรา 40 บาท เสียภาษี 240 บาทต่อปี

เคล็ดลับ  เลียนแบบ ภาพแรกด้านบนสุด เมื่อคำนวณภาษี แบบ 20 บาท (6*20) เสีย 120 บาทแต่
มีกฎว่า ถ้าคำนวณภาษีแล้วต่ำกว่า 200 บาท ให้คิด 200 บาท ฉนั้น ป้ายอันนี้เสีย 200 บาทต่อปี

 
ต่อไป
 
 
 
-ป้ายโลโก้ ใหญ่  เสียแบบอัตรา 40 บาท เพราะไม่มีภาษาไทยเลย
เสียค่าภาษี 1,800 บาท
 
***เคล็ดลับ **** นำภาษาไทย ไปแปะ บนโลโก้ จะเสียเพียง 900 บาท
 
ต่อไป
-ป้ายคำว่า perfectdog มีภาษาไทยอยู่บนสุดภาษาอังกฤษ เสียอัตรา 20 บาท
920 บาท
 
ถ้าเราจะทำป้ายโฆษณา ก็ควรอ่านบทความนี้ จะได้ ประหยัด ได้หลายพัน ต่อปีเลย 

ฝากเพจ และเวป ด้วยจร้า

http://www.facebook.com/Perfectdogs

 
 
 
 
 

3 ภาษีที่ ต้องรู้ สำหรับร้านอาบน้ำตัดขนสัตว์เลี้ยง Petshop

3 ภาษี ที่ต้องรู้ เกี่ยวข้อง กับธุรกิจ petshop & grooming ปี2017

แชร์เลย!!! แล้วจะหาว่าไม่เตือน

 
       บางทีเราเปิดร้านค้า เราก็อยากให้ขายดี มีกำไรไม่มาก พออยู่ได้ ก็พอแล้ว จึงคิดถึงกลยุทธุ์การตั้งราคาสินค้าและบริการให้ ถูก !
โดยคำนวณ รายได้หักทั้งค่าเช่า ค่าน้ำไฟ ค่าแรง
เหลือกำไร นิดหน่อย  ส่วนใหญ่ คนเปิดร้านใหม่ๆ จะคิดแบบนั้น 
แต่ แต่ แต่ มีค่าใช้จ่ายที่สำคัญ อีก3 รายการ ที่ห้ามลืม คือ ภาษี หรือ TAX จำนวนเงินที่จ่ายค่าภาษี ไม่น้อยเลยน่ะ บางท่านไม่ทราบมาก่อน เจอคิดย้อนหลัง
ถึงกับ นอนไม่ได้ไป หลายวันเลย 
 
ภาษี 3 รายการ ที่ต้องรู้
 
1.ภาษี เงินได้(บุคคลธรรมดา) เกิดจากเรามีรายได้ในประเทศ ภาษี นี้ แบ่งเป็นยื่นกลางปี และสิ้นปี ยื่นที่สรรพากรพื้นที่..
petshop เสีย 80% ของรายได้
และ Grooming เสีย 70% ของรายได้
 
TIP! เราสามารถนำค่าใช้จ่ายบางอย่าง มาหักได้ ประกันชีวิต ,มีบุตร ,ค่าการศึกษาบุตร
 
 
2.ภาษี โรงเรือน (ร้านค้า) ภาษีนี้ คิดจาก
พื้นที่ (กว้าง*ยาว=ตรม. )*อัตราทำเล*จำนวนเดือนที่ประกอบทั้งปี*อัตราภาษี 12.5%
** ถ้ากรณีเช่า ก็ต้องตกลงว่า ใครเป็นผู้จ่าย
 
TIP! ถ้าเรามีตึก หลายๆชั้น ควรใช้เพื่อการค้าเพียงบางชั้น ไม่ควรวางสินค้า อุปกรณ์กระจัดกระจาย ไปทุกๆชั้น
 
 
3.ภาษีป้ายเพื่อโฆษณา
วิธีคิดจากขนาดป้ายโฆษณา
แบ่งวิธี คิด
-ป้ายแบบที่มีอักษรไทยล้วน (ถูกสุด) 3 บาท/500 ตร. ซม.
-ป้ายอักษรที่มีอักษรไทยที่ปนกับอักษรต่างประเทศ ภาพ หรือเครื่องหมายอื่นๆ 20 บาท/500 ตรซม
-ป้ายที่ไม่มีอักษรไทยประกอบในป้าย หรือมีตัวอักษรไทยอยู่ต่ำกว่าภาษาอื่นๆ 40บาท/500 ตรซม
 
TIP! ควรมีภาษาไทยไปไว้บนสุดของป้าย อาจจะตัวเล็กๆ ก็ทำให้ภาษี ถูกลง จร้า
 
 
ผมหวังว่า ทุกๆ ท่านจะได้ วางแผนก่อน ทำธุรกิจน่ะ แต่ถ้าใครเจอปัญหานี้เข้าแล้ว ผมมีคำแนะนำหนึ่ง
ที่น่าใช้ คือ -เตรียม จำนวนภาษีที่เราสามารถจ่ายได้ไว้ในใจ
-เข้าไปคุยกับ เจ้าหน้าที่ คุยหลายๆครั้ง อย่ารีบสรุป จบในครั้งเดียว
-ขอความเห็นใจ ธุรกิจเราเป็นเพียงธุรกิจเล็กๆ สามารถ ต่อรองได้
-ห้าม!!! ยัดเงินใต้โต๊ะ
 
 
#ภาษีร้านอาบน้ำตัดขน #ภาษีpetshop